ความสำคัญของรายชื่ออีเมลที่ดีที่สุด
ก่อนอื่น, มาดูกันว่าทำไมรายชื่ออีเมลจึงสำคัญ. ลองคิดดูว่าสื่อโซเชียลมีเดียเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา. กฎเกณฑ์ต่าง ๆ อาจเปลี่ยนไปได้เสมอ. แต่รายชื่ออีเมลของคุณเป็นของส่วนตัวของคุณ. ไม่มีใครสามารถมาเปลี่ยนแปลงหรือควบคุมมันได้. รายชื่ออีเมลช่วยให้คุณสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้าของคุณ.
ทำความเข้าใจกับกลุ่มเป้าหมาย
การจะสร้างรายชื่ออีเมลที่ดีได้, คุณต้องรู้ก่อนว่าลูกค้าใน รายการหมายเลขโทรศัพท์ อุดมคติของคุณคือใคร. ลองจินตนาการถึงลูกค้าในฝันของคุณ. พวกเขาอายุเท่าไหร่? ทำงานอะไร? พวกเขามีปัญหาอะไร และสินค้าหรือบริการของคุณจะช่วยแก้ปัญหาให้พวกเขาได้อย่างไร? เมื่อคุณเข้าใจกลุ่มเป้าหมายแล้ว, คุณก็จะรู้ว่าควรจะดึงดูดพวกเขาด้วยเนื้อหาแบบไหน.
คุณสามารถใช้แบบสำรวจหรือการสัมภาษณ์ง่าย ๆ เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าของคุณ. นอกจากนี้, การศึกษาคู่แข่งของคุณก็เป็นวิธีที่ดีในการทำความเข้าใจตลาด. เมื่อคุณรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณต้องการอะไร, คุณก็สามารถสร้างข้อเสนอที่น่าสนใจเพื่อดึงดูดให้พวกเขาเข้าร่วมรายชื่ออีเมลของคุณ.
สร้างข้อเสนอที่น่าสนใจ

เพื่อให้คนเต็มใจให้ข้อมูลอีเมลของพวกเขา, คุณต้องมี "ของแลกเปลี่ยน" ที่มีค่า. สิ่งนี้เรียกว่า lead magnet. ลองคิดดูว่าคุณให้ของขวัญฟรีเล็กน้อยก่อนที่พวกเขาจะตัดสินใจซื้อ. ตัวอย่าง lead magnet ที่ดีได้แก่:
eBook หรือคู่มือฟรี: เช่น คู่มือการดูแลสวนใน
โค้ดส่วนลด: ให้ส่วนลดพิเศษสำหรับการซื้อครั้งแรก.
แบบทดสอบหรือแบบประเมิน: เช่น แบบทดสอบบุคลิกภาพที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของคุณ.
การเข้าถึงเนื้อหาพิเศษ: เช่น วิดีโอสอนพิเศษหรือบทความลับ.
ข้อเสนอของคุณควรมีคุณค่าและเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ. นอกจากนี้, มันต้องสามารถเข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็ว.
วิธีการรวบรวมอีเมลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
การรวบรวมอีเมลต้องทำอย่างถูกกฎหมายและได้รับความยินยอม. คุณไม่ควรซื้อหรือนำอีเมลจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ. การทำเช่นนั้นไม่เพียงแต่ผิดกฎหมาย, แต่ยังทำให้รายชื่อของคุณเต็มไปด้วยอีเมลที่ไม่มีคุณภาพ. วิธีที่ดีที่สุดคือให้ผู้คนสมัครใจเข้าร่วมรายชื่อของคุณ.
คุณสามารถทำได้หลายวิธี:
ฟอร์มสมัครสมาชิกบนเว็บไซต์: วางฟอร์มสมัครสมาชิกที่เด่นชัดบนหน้าแรกของเว็บไซต์.
Pop-up window: ใช้ pop-up ที่ปรากฏขึ้นมาเมื่อผู้เข้าชมจะออกจากเว็บไซต์.
โพสต์บนโซเชียลมีเดีย: โพสต์ลิงก์สำหรับสมัครสมาชิกบน Facebook หรือ Instagram ของคุณ.
การลงชื่อเข้าร่วมในกิจกรรม: หากคุณจัดกิจกรรมในท้องถิ่น, ให้ผู้เข้าร่วมลงชื่อเพื่อรับข้อมูลข่าวสาร.
เมื่อรวบรวมอีเมลแล้ว, ควรส่งอีเมลยืนยันการสมัครเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาต้องการรับอีเมลจากคุณจริง ๆ.
การแบ่งกลุ่มรายชื่ออีเมล
เมื่อรายชื่ออีเมลของคุณเติบโต, คุณควรจะเริ่ม แบ่งกลุ่ม (segment) รายชื่อของคุณ. ลองคิดว่าคุณเป็นเจ้าของร้านเสื้อผ้า. คุณคงไม่ส่งอีเมลโปรโมชั่นชุดเดรสสตรีไปให้ลูกค้าผู้ชายใช่ไหม? การแบ่งกลุ่มทำให้คุณสามารถส่งอีเมลที่เกี่ยวข้องและตรงใจกับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย.
คุณสามารถแบ่งกลุ่มได้จากหลายปัจจัย, เช่น:
ประวัติการซื้อ: ลูกค้าที่ซื้อสินค้าอะไร? ซื้อบ่อยแค่ไหน?
พฤติกรรมการเปิดอีเมล: ลูกค้าคนไหนที่เปิดอีเมลของคุณบ่อย ๆ?
ข้อมูลประชากร: เช่น อายุ, เพศ, หรือที่อยู่.
เมื่อคุณแบ่งกลุ่มแล้ว, คุณจะสามารถส่งเนื้อหาที่เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มได้. การทำเช่นนี้จะช่วยเพิ่มอัตราการเปิดอ่านอีเมลและอัตราการคลิก.
การรักษาคุณภาพของรายชื่ออีเมล
การสร้างรายชื่ออีเมลที่ดีไม่ใช่แค่การรวบรวมให้ได้มากที่สุด. มันคือการรักษาคุณภาพของรายชื่อให้ดีอยู่เสมอ. ลองคิดดูว่าคุณกำลังดูแลสวน. คุณต้องคอยรดน้ำและตัดแต่งต้นไม้ที่เหี่ยวเฉาออกไป. ในทำนองเดียวกัน, คุณต้องคอยตรวจสอบรายชื่ออีเมลของคุณ.